สวัสดีเพื่อน ๆทุกท่านวันนี้จะมาแนะนำวิธีรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งในช่วงนี้เดือนเมษายน ของทุก ๆ ปี มะม่วงหิมพานต์กำลังออกผลและเม็ดเริ่มสุกแก่ ให้เราได้สามารถเก็บมารับประทาน สำหรับวิธีทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเปลือกแข็ง ๆ ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมียางที่มีพิษต่อร่างกาย หากโดนยางผิวหนังจะไหม้ แสบร้อน ดังนั้นจึงมีวิธีแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โดยใช้วิธีคั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยไฟ เพื่อให้ยางของเปลือกเมล็ดถูกไฟเผา จนหมดจากเปลือก
สำหรับวิธีการเผา หรือคั่วเม็ดมะม่วงหิมพานแบบพื้นบ้าน
แนะนำให้คั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์กลางแจ้ง ที่โล่ง ๆ
- นำเม็ดมะม่วงหิมพานที่แก่จัด เปลือกมีสีเทา นำใส่ในภาชนะเช่น กะทะ กะป๋องต่าง ๆ เป็นต้น
- ก่อไฟด้วยไม้ฟืนโดยใช้เตาแบบสามเส้า นำเม็ดหิมพานต์ขึ้นตั้งบนไฟ
- เมื่อเมล็ดหิมพานต์เริ่มร้อน ก็จะมีน้ำมันไหลออกมาจากเปลือก ให้นำไฟมาเผาที่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไฟก็ลุกเผาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขั้นตอนนี้ต้องระวังให้ดี เพราะบางครั้งเมล็ดอาจจะกระเด็นออกจากภาชนะเมื่อโดนความร้อน ให้ท่านทำการคนไปเรื่อย ๆ เมื่อสังเกตุว่าไฟเริ่มเบาลง เปลือกเม็ดเริ่มสุกมีสีดำสนิท ก็ให้ดับไฟด้วยทราย หรือควำ่ภาชนะลงพื้นทราย เพื่อให้ไฟดับ
- รอเม็ดมะม่วงหิมพานต์เย็นลง จากนั้นจึงนำมาทุบด้วยไม่แข็ง ๆ เพื่อให้เปลือกที่เราเผากะเทาะออก เราก็จะได้เนื้อเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่สุกมีกลิ่นหอม พร้อมรับประทาน
การเผาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ต้องอาศัยความสังเกตุ และประสบการณ์ในการเผาบ่อย ๆ เพื่อควบคุมปริมาณของไฟ หากไฟแรงเกินไปหรือเผานานเกินไปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็จะไหม้เป็นถ่าน รับประทานไม่ได้